วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รีวิว Hada Labo Face Wash ล้างหน้าให้สะอาดหมดจดแบบสาวญี่ปุ่น ด้วยโฟมล้างหน้าฮาดะ ลาโบะ

ผิวสวยสดใส ดูสุขภาพดี เชื่อว่าใครๆก็อยากมีใช่ไหมคะ? ซึ่งนอกเหนือจากการบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอแล้ว สิ่งที่สำคัญมากๆอีกอย่างหนึ่งก็คือ "การล้างหน้า" ดังนั้นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามก็คือ "โฟมล้างหน้า"

ดังนั้นวันนี้น้ำตาลเลยจะขอมาแนะนำโฟมล้างหน้าที่ช่วยให้ทำความสะอาดผิวหน้าของเราให้สะอาดหมดจด ไม่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น และเติมเต็มความนุ่มชุ่มชื่นให้ผิวหลังล้างได้ แถมยังทำให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื่นไม่แห้งตึง พร้อมโชว์ผิวสวยใสแบบสาวญี่ปุ่นได้อย่างมั่นใจ นั่นคือ Hada Labo Face Wash (ฮาดะ ลาโบะ เฟส วอส) นั่นเอง!!!


Hada Labo Face Wash (ฮาดะ ลาโบะ เฟส วอส) คือ โฟมล้างหน้า สำหรับทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ มีส่วนผสมหลัก คือ Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมเต็ม และกักเก็บความชุ่มชื่น ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นไม่แห้งตึงหลังล้างหน้า

นอกจากนี้คนที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ Hada Labo Face Wash (ฮาดะ ลาโบะ เฟส วอส) ได้ เพราะโฟมล้างหน้าตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ น้ำหอม และสี แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนใช้ก็ควรเทสที่หลังหู หรือท้องแขนก่อนนะคะ

Hada Labo Face Wash (ลักษณะเป็นหลอดพลาสติกสีขาว มีตัวอักษรญี่ปุ่นเขียนเต็มหลอด จัดมีรูปภาพต้นอ่อนของต้นไม้ หน้าตาคล้ายๆต้นถั่ว และมีแถบสีม่วงเขียว อ่านอะไรไม่ออกเลยซักตัว ยกเว้นคำว่า Hada Labo แต่อย่าไปสนใจด้านหน้าค่ะ ขอให้พลิกมาข้างหลัง จะพบฉลากภาษาไทยแปะหรา มั่นใจได้ว่าซื้อไม่ผิดแน่นอน 555+++


Hada Labo Face Wash (ฮาดะ ลาโบะ เฟส วอส) มีทั้งหมด 2 สูตร ให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ
สูตรแรก คือ Hada Labo Softening & Whitening Face Wash : โฟมล้างหน้า เพื่อผิวกระจ่างใส นุ่มชุ่มชื่น
สูตรสอง คือ Hada Labo Deep Clean & Blemish Control Face Wash : โฟมล้างหน้า เพื่อผิวสะอาดล้ำลึก ลดปัญหาสิว

ซึ่งวันนี้น้ำตาลจะมารีวิว Hada Labo Deep Clean & Blemish Control Face Wash ซึ่งเป็นโฟมล้างหน้า เพื่อผิวสะอาดล้ำลึก ลดปัญหาสิว โดยเค้ามาพร้อมคุณสมบัติอัดแน่นเต็มหลอด นั่นคือ
- ผสานคุณค่าจากธรรมชาติ ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก
- ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงด้วยแร่ธาตุจากดินภูเขาไฟ 
- ช่วยลดปัญหาสิวให้ผิวเนียนใสด้วยซาลิไซลิค แอซิด 
- พร้อมเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื่นผิวด้วยไฮยาลูโรนิค แอซิด 
-สูตรอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ น้ำหอม และสี


ตัวเนื้อโฟมล้างหน้าจะเป็นสีขาว เนื้อสัมผัสเป็นครีมๆข้นๆ มีกลิ่นนิดๆ บรรยายไม่ถูกว่ากลิ่นเหมือนอะไร คือไม่หอมแต่ก็ไม่ได้เหม็น เนื้อโฟมไม่มีเม็ดบีดส์แทรกอยู่ ดังนั้นไม่บาดหน้าแน่นอน ลองปาดดูที่ฝ่ามือก็ไม่ไหลย้อย เข้มข้นพอสมควรค่ะ


ต่อไปเข้าสูขั้นตอนการตีฟองโฟมเพื่อล้างหน้า จริงๆแล้วใครมีตาข่ายก็สามารถเอามาใช้กับโฟม Hada Labo Face Wash ได้นะคะ แต่สำหรับรีวิววันนี้ น้ำตาลขอใช้มือถูตามแบบปกติ โดยในภาพแรกจะเป็นการถูแบบหยดน้ำลงไปนิดเดียว ฟองที่ได้ก็จะเป็นฟองแบบละเอียดๆ นี่ถ้าได้ตีโฟมกับตาข่าย น่าจะเป็นวิปโฟมที่ดีงามเลยทีเดียวน๊า


แต่ถ้าใครหยดน้ำลงไปเยอะๆหน่อย จะได้ปริมาณฟองโฟมที่เยอะขึ้น แต่ลักษณะของตัวฟองโฟม จะไม่ละเอียดเท่าแบบแรก ใครชอบแบบฟองฟ่อด เหยาะน้ำลงไปโลดดดดดดไหน เลือกกันตามสะดวกตามใจตามอัธยาศัยได้เลยค่ะ


วิธีล้างหน้าสำหรับน้ำตาลไม่มีเทคนิคอะไรเป็นพิเศษค่ะ แค่พยายามล้างอย่างเบามือที่สุด ไม่ถูหน้าแบบแรงๆ และระหว่างล้างหน้าก็จะใช้ปลายนิ้ว นวดวนๆไปทั่วหน้า เพื่อเป็นการทำความสะอาดผิวและนวดกระตุ้นผิวหน้าไปพร้อมๆกัน หลังจากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาดตามปกติได้เลย


ความรู้สึกหลังใช้ พอใจมากค่ะ รู้สึกผิวหน้าสะอาด ความมันลดลง แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง เอานิ้วปาดที่ผิวยังรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่นของผิว และผิวนุ่มเด้งดีค่ะ

ส่วนที่บอกว่า Hada Labo Deep Clean & Blemish Control Face Wash สูตรนี้ช่วยลดสิวได้ด้วย อันนี้ไม่แน่ใจเพราะปกติไม่ได้เป็นสิวเท่าไหร่ แต่ใช้สูตรนี้เพื่อป้องกันสิวไว้ก่อนค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ


สำหรับใครที่อยากหน้าใสเด้งดึ๋งอิ่มน้ำแบบสาวญี่ปุ่น ต้องเริ่มที่การล้างหน้าด้วย Hada Labo Face Wash นี่เลยจ้า เค้ามี 2 ขนาดให้เลือกกันได้ตามชอบเลยนะ ขนาดใหญ่ ขนาด 100 กรัม ราคา 175 บาท ตามไปซื้อกันได้ที่ Supermarket และ health & beauty store ชั้นนำ หรือถ้าอยากได้ขนาดเล็กแบบพกพาสะดวกก็มี ขนาด 50 กรัม ราคา 89 บาท ซื้อได้ที่ 7-Eleven เค้าก็มีขายทุกสาขาเลย

ใครอยากดูข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม ตามไปส่องกันที่แฟนเพจ We Love Hada Labo ได้เลยจ้า >>>  https://www.facebook.com/WeLoveHadaLabo


ฝากกด Like Fanpage ให้ด้วยน๊าาา จิ้มปุ่มด้านล่างได้เลยจ้า :)




หมายเหตุ : ผลิตภัณฑ์นี้ ได้รับการสนับสนุนจาก Hada Labo และ https://th.revu.net

อ่านต่อ >>>

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รีวิว แชมพูแห้ง Batiste Dry Shampoo Clean & Classic Original ไอเท่มสำคัญสำหรับคนไม่ชอบสระผม!!!

ค่ะ ตามที่จั่วหัวเลยแหละ ขอสารภาพตามตรงเลยว่า น้ำตาลนี่แหละ คือคนนึ่งที่โคตรจะไม่ชอบสระผมเลย อาจจะฟังดูซกมกนะ แต่ว่าขออธิบายเพิ่มนิดนึงเหอะ สาเหตุที่ไม่ค่อยชอบสระผม เพราะน้ำตาลเป็นคนผมยาวมากค่ะ + ผมเยอะ + ผมเส้นใหญ่เข้าไปอีก ทำให้การสระผมแต่ละครั้ง ต้องรอผมแห้งนาน มว๊ากกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) จะเช็ด จะไดร์ จะหนีบ จะม้วน โอ้ยยยยย เมื่อยแขน และใช้เวลายาวนานเกิ๊น

แต่ตอนนี้ น้ำตาลได้เจอตัวช่วยใหม่ อย่าง Batiste Dry Shampoo ภาษาไทยเรียก ดรายแชมพู หรือแบบง่ายๆบ้านๆกว่านั้น ก็คงเรียกว่าแชมพูแห้งนั่นเอง ที่เรียกแชมพูแห้ง ก็เป็นเพราะว่าใันสามารถช่วยปรับสภาพผมที่มันเยิ้มให้ดูดีขึ้นในเวลาไม่กี่นาที!!! อั๊ยยะๆๆๆ เจอของดีขนาดนี้ ไปลองสิคะ รออะไร???


Batiste Dry Shampoo ที่จะมารีวิววันนี้เป็นสูตร Clean & Classic Original ค่ะ จริงๆมันมีหลายกลิ่นแหละ แต่วันนี้จะขอลองแบบดั้งเดิมดูก่อนดีกว่า อย่างที่บอกไปแล้วว่า Batiste Dry Shampoo คือ แชมพูแห้ง มีลักษณะเป็นสเปรย์ทำความสะอาดเส้นผมโดยไม่ต้องสระ ใช้งานง่ายเพียงแค่สเปรย์ลงบนเส้นผม ช่วยขจัดความมัน ให้ผมลีบแบนให้กลับมามีชีวิตชีวาโดยไม่ง้อน้ำ มอบกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นและช่วยให้เส้นผมดูมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงด้วยนะ


คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้งาน และรายละเอียดต่างๆ มีฉลากภาษาไทยติดไว้ชัดเจนที่หลังกระป๋อง แต่ที่เห็นชัดเจน ที่ดูว่าเป็นข้อห้าม คำเตือนที่สำคัญ คือ ห้ามพ่นใกล้ไฟหรือบริเวณที่มีประกายไฟ ดังนั้นควรระวังกันเป็นพิเศษด้วยนคะะ

มาๆๆๆ เริ่มต้นจากการเทสดูที่แขนก่อนดีกว่าค่ะ จากที่เห็นลักษณะของ Batiste Dry Shampoo เวลาฉีดออกมาแล้ว ลักษณะจะเป็นเหมือนผงแป้งสีขาว


พอลองเอามือลูบๆดู ก็จะมีลักษณะเป็นผงขาวๆ แห้งๆ เหมือนเวลาทาแป้งเลย


พอเกลี่ยให้ทั่ว ก็จะเห็นว่าผงแป้งขาวๆเคลือบขนแขนไปหมดเลย แต่ถ้าเอาผ้ามาเช็ด ตัวผงแป้งก็จะจางลงค่ะ ดูจากภาพจะเห็นว่าบริเวณขนแขน จะกลายเป็นสีขาวไปเลย


ต่อไปทดสอบด้วยการฉีดลงบนเส้นผมกันเลยค่ะ สำหรับการใช้ Batiste Dry Shampoo Clean & Classic Original จะทดลองด้วยสภาพผมที่ไม่ได้สระมา 4 วัน!!! บอกเลยว่าความมันตรงโคนผมระดับ 10 ส่วนที่เห็นเป็นเส้นขาวๆ ไม่ได้ไฮไลท์อะไรทั้งนั้นค่ะ ผมหงอกล้วนๆ 555+++


เริ่มด้วยการหวีผมให้เรียบร้อย แล้วฉีด Batiste Dry Shampoo Clean & Classic Original ลงไป โดยเวลาฉีด ให้ขวดห่างจากเส้นผมประมาณ 30 ซม. นะคะ จะเห็นว่าเป็นสีขาวชัดเจนเลย ตอนฉีดจะมีกลิ่มหอมอ่อนๆด้วยค่ะ แต่ไม่แนะนำให้ดมนะ เพราะอย่างที่บอกว่ามันเป็นหมือนฝุ่นแป้งค่ะ ดังนั้น ควรกลั้นหายใจไว้ซักแปปตอนฉีดดีกว่าค่ะ


หลังฉีด Batiste Dry Shampoo Clean & Classic Original ลงไปแล้ว ให้เอามือขยำๆ ถูๆ ลูบๆ ยีๆ เส้นผมให้ทั่วๆ ใจเย็นๆค่อยๆยีไปค่ะ คอยดูให้สีผมมันสม่ำเสมอกันด้วย เพราะว่ากันตามจริง มันก็เหมือนเอาแป้งมาโรยหัวอ่ะนะ นวดไม่ดี ยีไม่ทั่ว จะกลายเป็นคุณป้าผมขาวไม่รู้ตัวนะ 555+++


หลังจากขยำๆไปซักแปป จะเห็นได้ชัดเลยว่าโคนผมที่มันๆ ค่อยๆลดความมันลงอย่างเห็นได้ชัด สีผมจะอ่อนลงนิดหน่อย เพราะน้ำตาลผมดำธรรมชาติ ไม่ได้ย้อมสีเลย แต่ถ้าใครที่ทำสีผมอยู่แล้ว ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร จะเห็นว่าความมันของผมลดไปเยอะมากเลย ผงแป้งเคลือบเส้นผมได้ดี ไม่มีตกค้างเป็นคราบเหมือนรังแค่ สามารถหวีและแต่งทรงผมได้ตามปกติ ... ต่อไปดูภาพหลังใช้กันค่ะ


หลังใช้ พอใจมากเลยค่ะ ผมดูดีขึ้นเยอะมากๆ ความมันลดลงอย่างชัดเจน จะแสกผม จะหวีปาดก็ทำได้หมดเลย และด้วยความที่ตัว Batiste Dry Shampoo Clean & Classic Original มีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย ดังนั้นหลังใช้ กลิ่นเหงื่อ และกลิ่นตุๆ ที่มีอยู่บนผมก็จะจางลงไปด้วย คือกลิ่นแค่จางลงนะคะ แต่ไม่ได้หายไป ไม่ได้กลับมาหอมเหมือนสระผมนะ ยังไงสระผมก็สะอาดและสดชื่นกว่าค่ะ


ใครสนใจลองถามอากู๋(เกิ้ล) ดูได้เลยนะคะ ว่าจะซื้อได้ที่ไหน แต่เท่าที่เจอ จะมี 2 ขนาด คือ ขวดยาวขนาดจริง 200 มล.  ราคาจะอยู่ประมาณ 250 บาท ส่วนที่น้ำตาลเอามารีวิว จะเป็นขวดเล็กขนาดพกพา 50 มล. จ้า

ปล. หลังใช้  Batiste Dry Shampoo Clean & Classic Original น้ำตาลยังสามารถหมักหมม ไม่สระผมต่อไปได้อีก 2 วันด้วยแหละ โดยคนรอบข้างไม่ทัก ไม่รู้สึกถึงความผืดปกติ ดี๊ย์ดีเนอะ 555+++ (มันใช่เรื่องน่าโชว์ม๊ายยยยย) พอแค่นี้ดีกว่า บรัยยยยย ^^

ฝากกด Like Fanpage ให้ด้วยน๊าาา จิ้มปุ่มด้านล่างได้เลยจ้า :)




หมายเหตุ : ผลิตภัณฑ์นี้ ได้รับการสนับสนุนจาก Batiste Dry Shampoo และ https://th.revu.net

อ่านต่อ >>>

วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รีวิว Bohktoh ONE False Eyelashes ขนตาปลอมบอกต่อ ที่ใครๆก็บอกต่อ ดียังไง เริ่ดแค่ไหนไปดูกัน!!!

ขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะคะว่าปกติเป็นคนไม่ิดขนตาปลอมเท่าไหร่ เพราะคิดว่าการติดขนตาปลอมมันควรเอาไว้ใช้กับโอกาศพิเศษหรือสถานที่พิเศษ เช่นไปออกงาน ไปพบลูกค้า เป็นต้น

แต่วันนี้มีขนตาปลอม Bohktoh ONE False Eyelashes ที่เค้าเคลมไว้ว่า เป็นขนตาปลอมที่เน้นเพิ่มความยาวให้ขนตาแบบเป็นธรรมชาติ  เหมาะสำหรับติดได้ทุกวัน และยังมีความพิเศษเพราะผลิตจากเส้นผมแท้ (lashes Handmade) และใช้แกนไหม เพื่อไม่ให้เคืองตาเวลาใช้งาน


หน้าตาของขนตาปลอมบอกต่อ จะเป็นกล่องสีฟ้าขาวแบบในภาพเลยค่ะ พร้อมโชว์ขนตาปลอมให้เห็น ใครอยากได้ขนตาแน่นแค่ไหน เลือกได้ตามชอบเลยค่ะ

สำหรับขนตาปลอม Bohktoh ONE False Eyelashes จะมีทั้งหมด 3 เบอร์ คือ BT01 , BT02 , BT03 เรียงลำดับตามความแน่นความหนาค่ะ (แต่ในภาพเรียงกลับกันนะ)


ซึ่งตัวที่จะมาลองรีวิววันนี้ คือ เบอร์ BT03 ซึ่งเป็นเบอร์ที่ขนตาแน่นที่สุด หนาที่สุดค่ะ ลักษณะขนตาดูเป็นแพหนา เวลาจับเส้นขนตาจะลื่นๆ แอบรู้สึกว่าขนตาปลอมนุ่มลื่นกว่าผมเราจริงๆด้วยแหละ 555+++

คำเตือน : ในกล่องไม่ได้แถมกาวติดขนตามาด้วยนะคะ ใครยังไม่มี อย่าลืมหาซื้อกาวมาด้วยล่ะ


ใครที่ติดขนตาปลอมไม่เป็น ก็ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะหลังกล่องเค้ามีคำอธิบายไว้ละเอียดยิบ ทำตามได้เลย ไม่ต้องกลัว จะติดเอียงติดเบี้ยวไปบ้าง ก็ค่อยๆแก้ไปค่ะ ติดบ่อยๆก็เก่งไปเอง

วิธีติดขนตาปลอม
ถ้าใครอยากดัดขนตาก่อนก็ดัดได้เลยค่ะ หลังจากนั้นเอาขนตาปลอมมาทาบที่ตาเพื่อวางตำแหน่ง ถ้าขนตาปลอมยาวเกินไปก็ตัดออกให้ได้ขนาดที่พอดี ทากาวบางๆ ที่ขอบขนตาปลอม ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาทีจนกาวเริ่มแห้ง ติดขนตาปลอมให้ชิดแนวขนตามากที่สุด เพื่อความเป็นธรรมชาติ


เริ่มต้นจากภาพ Before นะคะ ลงรองพื้น เขียนคิ้ว และใส่บิ๊กอายเรียบร้อยแล้ว โดยจะไม่ดัดขนตาจริงก่อนติดขนตาปลอม และไม่ตัดขนตาปลอมออกด้วยค่ะ เพราะอยากได้ลุคที่ขนตายาวเลยหางตาไปนิดหน่อย เพื่อให้ตาดูยาวขึ้นโตขึ้น


ติดแล้วข้างนึง เปรียบเที่ยบกับอีกข้างที่ยังไม่ได้ติด เห็นความแตกต่างเลยเนอะ

อ่อ ... เคล็ดลับเล็กน้อยสำหรับใครที่มีชั้นตาหลบในแบบน้ำตาล วิธีการติดขนตาปลอม ให้ติดแบบเว้นช่วงหัวตาไว้นิดนึงนะคะ จากในภาพก็จะเริ่มติดตั้งแต่ขอบบิ๊กอายเป็นต้นไปค่ะ เพื่อที่เวลากระพริบตา ขนตาปลอมบริเวณหัวตาจะได้ไม่หลุด และไม่ทำให้เคืองตาด้วยค่ะ


ติดครบทั้ง 2 ข้าง ใครอยาดปัดมาสคาร่าเพิ่มก็ปัดได้เลยนะคะ แต่ลุคนี้ไม่ปัดค่ะ อยากแต่งให้น้อยที่สุด ดูธรรมชาติที่สุดค่ะ ภาพรวมดูหวานๆแบ๊วๆดี แต่ยังดูหน้าจืดไปหน่อย งั้นขอแต่งแก้มกับปากเพิ่มนิดนึงนะคะ


เสร็จแล้วค่ะ Finish Look จะเป็นแบบที่ใช้เครื่องสำอางน้อยชิ้นมากๆ แปกรณ์มีแค่ รองพื้น ที่เขียนคิ้ว ลิปสติกใช้สำหรับทาแก้ม+ทาปาก และขนตาปลอม Bohktoh ONE False Eyelashes แค่นี้ก็ได้ลุคดูธรรมชาติ แบ๊วๆ ใสๆ พร้อมออกนอกบ้านแล้วค่ะ


จากการใช้งานจริง พอใจมากค่ะ ไม่คิดว่าจะออกมาดูเป็นธรรมชาติขนาดนี้ ถึงขนตาปลอมจะดูเป็นแพหนา แต่พอติดออกมาจริงๆ ดูธรรมชาติมากๆ ไม่รู้สึกหนักขนตา และเวลามองก็มองเห็นได้ชัดเจน ขนตาปลอมไม่บังการมองเห็นเลย ดีสุดๆ และถึงจะแต่งหน้าน้อยมาก แค่ติดขนตาปลอมก็ช่วยให้ดูดีขึ้นได้

อีกข้อคือ สำหรับคนที่ใส่บิ๊กอายแบบตาโต ขนตาปลอม Bohktoh ONE False Eyelashes ช่วยทำให้ดวงตาดูมีมิติ ดูหวานมากขึ้น ไม่ดูตาโตแปลกๆเหมือนตาเอเลี่ยนด้วยค่ะ

ข้อควรระวัง
เวลาดึงออกจากกล่อง ให้เบามือหน่อยนะคะ น้ำตาลดึงแรงไป หางขนตาหลุดมา 2 กระจุกเลย อาจเพราะใช้แหนบดึงด้วยมั๊ง แหนบอาจจะคมเกินไป แต่ยังดีที่หลุดตรงบริเวณหาง ตัวขนตาปลอมเลยยังใช้ได้ปกติ ไม่ดูแหว่งอะไร ยังไงก็ระวังกันหน่อยนะคะ


ใครสนใจสั่งซื้อ สามารถเลือกซื้อ เลือกรุ่นได้ที่ http://www.lashesbasket.com หรือตามร้านค้าทั่วไป ราคาคู่ละ 89 บาท แต่ถ้าใช้บ่อยๆ หรือมีเพื่อนหาร แนะนำว่าซื้อเป็นแพคใหญ่ 10 คู่ จะคุ้มกว่ามากเลยค่ะ

และขนตาปลอม Bohktoh ONE False Eyelashes นี้ ยังสามารถใช้ซ้ำได้ด้วยนะคะ คุ้มสุดๆไปเลย ขอย้ำอีกครั้ง ในกล่องไม่ได้แถมกาวติดขนตามาด้วยนะคะ ใครยังไม่มีกาวติดขนตาปลอม อย่าลืมหาซื้อกาวมาด้วยจ้า

ฝากกด Like Fanpage ให้ด้วยน๊าาา จิ้มปุ่มด้านล่างได้เลยจ้า :)




หมายเหตุ : ผลิตภัณฑ์นี้ ได้รับการสนับสนุนจาก ขนตาปลอม Bohktoh และ https://th.revu.net
อ่านต่อ >>>

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รีวิว MKB Foaming Facial Net ตาข่ายตีฟองโฟม ฟองโฟมเยอะสะใจ ทำเองได้ ง่ายนิดเดียว

ปกติแล้วเวลาล้างหน้า เราจะถูโฟมล้างหน้าที่มือไปเรื่อยๆ แต่ทำยังไงฟองก็ไม่ฟูขึ้นมาแบบในโฆษณาใช่ไหมคะ ซึ่งบางคนอาจแอบคิดไปแล้วว่า ฟองโฟมฟูๆ นุ่มๆ แบบนั้น น่าจะทำแบบนั่นได้แค่ไหนโฆษณา

แต่จริงๆแล้ว คุณคิดผิด!!!

เพราฟองโฟมฟูๆ นุ่มๆ สามารถทำเองได้ ง่ายนิ๊ดดดดดเดียว เพียงคุณมีตัวช่วยสำหรับตีฟองโฟม MKB Foaming Facial Net อ่านภาษาไทยว่า เอ็มเคบี โฟมมิ่ง เฟเชียล เน็ท มันคือตาข่ายสำหรับตีฟองโฟม ช่วยให้เราสามารถตีฟองโฟมให้หนาๆ ฟูๆ ได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ฝ่ามือถูไปมาไม่กี่วินาที

ต่อไป เรามาชมหน้าตาของเจ้าตาข่ายตีฟองโฟมกันค่ะ
เริ่มกันที่รูปทรง : จะเป็นทรงกรวยคว่ำ คล้ายกระโปรงสุ่ม ด้านบนสุดจะมีห่วงพลาสติกกลมสีชมพูเพื่อเอาไว้ใช้แขวนในห้องน้ำ ถัดลงมาจะมีห่วงพลาสติกสีขาวอยู่บริเวณตาข่ายเพื่อเอาสำหรับรูดฟอง
ตัวตาข่าย : สัมผัสจะเหมือนกับพวกตาข่ายถูตัวอ่ะค่ะ เนื้อตาข่ายแข็งนิดๆแต่ไม่หยาบ
ขนาด : ประมาณ 1 ฝ่ามือ(ผู้หญิง) ขนาดกระทัดรัดกำลังดี สามารถพกพาและใช้งานได้สะดวก ไม่เกะกะ


ปกติเวลาเราล้างหน้า แล้วถูโฟมล้างหน้าด้วยมือ ก็มักจะเป็นฟองนิดๆ ติดมือ หรือถ้าใช้รุ่นที่เป็นโฟมแบบ Whip ที่เราคาดหวังว่ามันจะมีฟองฟรึ่มมมมม ขึ้นมาแบบในโฆษณา แต่พอเวลาใช้จริง ถูกับมือเปล่า ฟองก็ออกมาแค่เนี้ย!!!


งั้นทำไงดีล่ะ???

ก็ใช้ MKB Foaming Facial Net  ตาข่ายตีฟองโฟม เอ็มเคบี โฟมมิ่ง เฟเชียล เน็ท สิจ๊ะเธออออ อยากได้ฟองฟรึ่มเบอร์ไหน ก็ถูๆๆๆๆเอา ง่ายโพดดดดด

ถ้าถามว่าจะตีฟองโฟมให้หนาๆ ฟูๆ ไปเพื่ออะไร? จำเป็นมั๊ย? ทำไมต้องฟองโฟม?
คำตอบข้อแรก - เพื่อความสนุก 555+++
คำตอบข้อสอง - การตีฟองโฟม ทำให้มือไม่ต้องสัมผัสกับหน้าโดยตรง ช่วยลดต้นเหตุการเกิดริ้วรอยได้
คำตอบข้อสาม - ฟองโฟมที่ละเอียด จะช่วยให้สามารถทำความสะอาดได้ลึกถึงรูขุมขน

เป็นไงล่ะ ฟองโฟมเนี่ย ดี๊ย์ ดี ใช่มะ งั้นจะช้าทำไมไปตีฟองโฟมกันนนน


วิธีใช้ MKB Foaming Facial Net  ตาข่ายตีฟองโฟม เอ็มเคบี โฟมมิ่ง เฟเชียล เน็ท

1. ทำตาข่ายให้เปียกน้ำ แล้วบีบโฟมล้างหน้า หรือสบู่ ลงบนตาข่าย สำหรับโฟมที่ใช้ในภาพ เป็น Whip Foam ค่ะ



2. ถูโฟมล้างหน้า หรือสบู่ วนกับตาข่ายจนเกิดฟอง อาจใช้ฝ่ามือถูเพื่อการสร้างฟองได้เร็วยิ่งขึ้น และเนื้อฟองโฟมจะละเอียดขึ้น


3. ที่บริเวณด้านบนของตาข่าย จะมีห่วงพลาสติกใสครอบไว้ สามารถรูดขึ้นลงได้ ห่วงใสอันนี้เอาไว้ใช้รูดฟองออกมาจากตาข่าย หน้าตาแบบในภาพค่ะ


4. เมื่อได้ปริมาณฟองโฟมตามที่ต้องการ ก็รูดห่วงใสจากด้านบนลงมาตามแนวตาข่าย เพื่อรีดฟองโฟมออกมาทำสะอาดผิวต่อไป แต่ถ้าใครขี้เกียจรูดฟองโฟมด้วยห่วง จะใช้ฝ่ามือรูดแทนไปเลยก็ได้ค่ะ


5. รูดออกมาแล้ว จะได้ฟองโฟมฟูๆพร้อมใช้ ก็ล้างหน้าตามอัธยาศัยไปสิคะ


6. หลังใช้เสร็จแล้วก็ล้างน้ำสะอาดตามปกติ แล้วผึ่งให้แห้ง สำหรับน้ำตาลเอง จะเอาผ้าหรือทิชชูมาซับน้ำที่ตาข่ายก่อนรอบนึงค่ะ เพื่อให้ตาข่ายแห้งเร็วขึ้นและไม่ขึ้นรา จะได้ใช้ได้นานๆ

เห็นมั๊ยคะ ฟองโฟมเนี่ย มันทำได้ง่ายจริงๆ ส่วนตัวแล้วพอใจกับไอเท่มนี้มากๆเลยค่ะ ฟองโฟมที่ได้ก็ฟูดี เนื้อเนียน นอกจากใช้งานง่ายแล้ว ยังสนุกเวลาใช้งานอีก ชอบบบบ 555+++

สำหรับใครที่สนใจหาซื้อ MKB Foaming Facial Net  ตาข่ายตีฟองโฟม เอ็มเคบี โฟมมิ่ง เฟเชียล เน็ท  ไปส่องกันได้ที่ร้าน MatsuKiyo หรือตามร้านขายอุปกรณืความงามทั่วไป ราคากรุณาสอบถามที่จุดขายจ้า

ฝากกด Like Fanpage ให้ด้วยน๊าาา จิ้มปุ่มด้านล่างได้เลยจ้า :)




หมายเหตุ : ผลิตภัณฑ์นี้ ได้รับการสนับสนุนจาก MKB Foaming Facial Net และ https://th.revu.net
อ่านต่อ >>>

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รีวิว JINNAI ABC CREAM จินนาย เอบีซี ครีม สวยไว ใสเร็ว ให้ผิวขาวกระจ่างใส ทันใจ ในขั้นตอนเดียว

หากผิวดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง หน้าไม่ต้องแต่งเยอะก็ดูดี๊ดูดี ผิวขาวใส Glow แบบเกาหลี วันนี้น้ำตาลจึงมีไอเท่ม ABC Cream มาแนะนำ ซึ่งเจ้าตัวนี้แหละ ที่จะช่วยให้เหล่าโอปป้าพร้อมใจกันเหลียวมองในความขาว ควางบลิ๊งค์ของเราจนคอแทบหัก

อ่ะๆ ไม่ต้องงค่ะ อิชั้นพิมพ์ไม่ผิด สิ่งนี้ ไม่ใช่ AA ไม่ใช่ BB และไม่ใช่ CC แต่มันคือ "JINNAI GUEM-SA-RANG ABC CREAM READY BRIGHT FOR FACE" จาก บีลอฟ Belov จ้าาาาา


JINNAI GUEM-SA-RANG ABC CREAM READY BRIGHT หรืออ่านภาษาไทยว่า จินนาย กึม-ซา-ราง เอบีซี ครีม เร้ดดี้ ไบร์ท โว๊ะ!!! ชื่อยาวป๊ายยยยย เอาเป็นว่า ขอเรียกสั้นๆว่า JINNAI ABC CREAM หรืออ่านภาษาไทยว่า จินนาย เอบีซี ครีม ละกันนะคะ

JINNAI ABC CREAM มีคุณสมบัติเด่นๆ คือ ช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวใส พร้อมกันแดด SPF50 PA+++ เนื้อครีมมีเทคโนโลยีสูตรน้ำช่วยให้เนื้อครีมยิ่งเบาบาง และแตกตัวเป็นน้ำเวลาที่ทาลงบนผิว ทำให้ซึมสู่ผิวได้ง่าย และช่วยให้ไม่รู้สึกเหนอะหนะผิวเนื้อครีมและเมคอัพติดผิวทนนานกว่า ทำให้ผิวใสตลอดวัน

ซึ่ง JINNAI ABC CREAM จะช่วยให้ชีวิตสาวๆง่ายขึ้นมาก ตามสโลแกน สวยไว...ใสเร็ว เพราะรวมเค้าทุ๊กกกกกอย่าง ทั้ง Primer, Base, Foudation, ไว้ในขั้นตอนเดียว ให้ผิวหน้ากระจ่างใสตลอดวัน แถมมี ครีมบำรุงผิว, ครีมกันแดด SPF50+++ มาให้อีกด้วยนะเธอว์ แถมยังพกง่าย เพราะเป็นแบบซอง ขนาด 5 กรัม

โหย นี่ครีมหรือยาผีบอกคะ ถ้าจะครบไปทุกสิ่งขนาดนี้ อย่ามาโม้ค่ะ ลองสิคะลอง ระไร ไปมุงค่ะ!!!


JINNAI ABC CREAM มีทั้งหมด 4 สี โดยจะปาดให้ดูทุกสีเลย ว่าสีของเนื้อครีมเป็นสีอะไร(ตำแหน่งซ้ายมือ) เมื่อเกลี่ยแล้วช่วยปกปิดได้แค่ไหน โดยจะเกลี่ยครีมลงบนไฝ(ตำแหน่งกลาง) และลงหน้าจริงให้เห็นชัดๆด้วยเลย ซึ่งจะลงแค่ที่หน้า ไม่ได้ลงคอนะคะ  เรียงสี NUDE / PINK / GREEN / VIOLET

1. NUDE CREAM (HM161N) : ช่วยให้สีผิวที่หมอง สว่างใสขึ้น แลดูเรียบเนียน

เหมาะสำหรับสาวผิวคล้ำ ปรับสีผิวให้เรียบเนียนขึ้น หรือผู้ที่ชื่นชอบการแต่งหน้าในลุคส์ธรรมชาติที่สุด ให้ผลลัพะ์ราวกับไม่ได้แต่งหน้า ช่วยปกปิดรอยด่างดำ ปรับสีผิวให้สว่างขึ้นได้ 1 ระดับ สีผิวดูเนียนสม่ำเสมอแบบสีผิวธรรมชาติที่สุด



2. GREEN CREAM (HM161G) : ให้ผิวหน้าดูสดใสอ่อนวัย ปกปิดรอยสิวช่วยให้สีผิวที่ออกแดง รอยจ้ำแดงดูจางลง

ช่วยลดเลือนรอยดำ รอยแดง รอยสิว ให้สีผิวเนียนสม่ำเสมอ ปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้นได้ถึง 2เท่า เหมาะสำหรับผิวขาว-เหลือง



3. PINK CREAM (HM161P): ช่วยอำพรางจุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แลดูมีสุขภาพผิวดี

สำหรับสาวผิวขาว ผิวขาวซีด หรือผู้ที่ต้องการปรับสีผิวให้ดูอมชมพู สีผิวแลมีเลือดฝาดใบหน้าสว่างกว่าปกติ 2 เท่า ใช้เป็นคอลซีลเลอร์, ไฮไลท์ช่วยกลบผิวหมองคล้ำเฉพาะจุดดีเยี่ยม



4. VIOLET CREAM (HM161V): ช่วยปรับผิวให้ดูระเรื่อ สีผิวสม่ำเสมอ แลดูมีสุขภาพดี

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสีผิวที่เห็นเส้นเลือดสีม่วง สีเขียวหรือรอยดำเห็นชัดเจนให้สีผิวที่ได้แลดูเนียนสม่ำเสมอขึ้น



หลังจากดูทีละสีแล้ว ก็ต้องชักภาพหมูสิคะ เทียบกันไปจะๆ ว่าสีไหนเป็นไง เพื่อให้ชัดเจน จะเทียบจากการเกลี่ยลงผิวค่ะ บริเวณที่เทสสีก็คือบริเวณท้องแขน เรียงสีจากบนลงล่าง NUDE / PINK / GREEN / VIOLET


จะเห็นว่าพอทาลงผิว JINNAI ABC CREAM จะแตกตัวเป็นน้ำ จากภาพจะดูเงาๆ นั่นแหละน้ำที่ซึมออกมา สีม่วงน้ำมาเป็นหยดชัดเจน ซึ่งจากการใช้งานจริง การที่เนื้อบีบีแตกตัวเป็นน้ำ มันก็ทาได้ลื่นดีอยู่นะคะ แต่ๆๆๆๆ ถ้าจะเกลี่ยออกไปด้านข้างให้ทัวบริเวณมันจะไม่ค่อยทั่ว เพราะเหมือนเนือครีมมันเกลี่ยไม่ค่อยไปอ่ะ

ต่อไปเกลี่ยให้เนียนค่ะ ซึ่งระหว่างที่เกลี่ย เนื้อครีมจะยังมีน้ำแทรกอยู่ แต่พอน้ำแห้ง เนื้อ JINNAI ABC CREAM จะเริ่มเนียนไปกับผิว ไม่มัน ไม่เมือก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งเท่าที่ลองดม กลิ่นคล้ายๆกันทุกสี และผ่านไปซักครู่กลิ่นหอมก็จะจางลง ลักษณะเนื้อครีมจะเคลือบที่ผิวไว้ ซึ่งจะบอกว่าโดนน้ำก็ไม่ลบนะจ๊ะ เหมาะกับการใช้แต่งหน้าไปเล่นน้ำตอนสงกรานต์ เสียดายครีมออกมาช้าไปหน่อยอ่ะ


ส่วนตัวชอบสีนู้ด NUDE กับสีชมพู PINK นะคะ คือค่อนข้างขาว แต่ก็ยังสามารถใช้แต่งทั้งหน้าได้ ยิ่งถ้าไปออกงานแบบงานกลางคืนนะ ทาเลยไปที่ไหล่ด้วยก็น่าจะช่วยปรับสีผิวให้ขาวผ่องได้ดีเลยแหละ

ส่วยสีเขียว GREEN กับสีม่วง VIOLET ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะกับการใช้ทั้งหน้า แต่ถ้าเอาไว้แต่งเฉพาะจุด เช่นกลบแพนด้าใต้ตา หรือรอยสิว หรือเอามาทำเป็นไฮไลท์ อันนี้น่าจะโอเคกว่า แต่มันคงไม่กลบได้มิดแบบคอนซีลเลอร์นะ แค่ช่วยให้รายคล้ำ รอยสิวจางลงเฉยๆค่ะ หรือเอามาผสมพวกรองพื้นสีเข้มที่เราซื้อมาผิดเบอร์ก็น่าจะได้อยู่

ต่อไป ลองมาแต่งเต็มกันบ้างเนอะ โดย JINNAI ABC CREAM ที่ใช้คือ สีนู้ด NUDE เพราะดูเข้ากับผิวที่สุดแล้ว ในภาพคือ Everyday Look เลยค่ะ เพราะปกติแต่งหน้าไม่เยอะ (แต่งไม่เป็น  ฮือออ) เน้นเบาๆ ไสยๆ ... ไสย(ศาสตร์) 555+++


เคล็ดลับการใช้ให้ได้ผลดี อย่างแรกนะคะที่สำคัญมากข้อที่ 1 คือ ด้วยความที่เนื้อครีมของ JINNAI ABC CREAM มีเนื้อครีมแน่นมากและขาวเด้งมาก ดังนั้นลงทีละน้อยๆค่ะ ไม่พอค่อยเติม อย่าลงแบบหนักมือ มันจะดูหน้าลอยนะคะ แต่ถ้าใครผิวขาวน่าจะไม่มีปัญหานี้ อ่อ... ลงที่หน้าเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมลงที่คอกันด้วยล่ะ

และอย่างที่เห็นตอนเทสสีไปแล้ว ว่าหลังทาครีมลงผิว เนื้อครีมจะแตกตัวเป็นน้ำ ดังนั้นหลังลงครีมควรรอซักนิดนึง 1-2 นาที เพื่อให้ครีมแห้งและเริ่มเซ็ทตัวก่อน หลังจากนั้นค่อยแต่งหน้าเป็นขั้นตอนต่อไป

และด้วยความที่เนื้อครีมค่อนข้างขาว ข้อดีก็คือ ทำให้สีของเมคอัพชัดขึ้นค่ะ บลัชออนไม่ต้องลงเยอะ เพราะสีชัด ไม่เพี้ยน แต้มนิดเดียวรู้เรื่อง!!! และเพื่อความเนียนของงานผิว ให้ใช้ฟองน้ำช่วยเกลี่ย จะได้ผิวที่เนียนสม่ำเสมอกว่าการใช้นิ้วมือ หรือแปรงค่ะ

และอีกอย่างที่อยากบอกคือ เวลาล้างหน้าค่ะ เนื่องจากเนื้อครีมจะค่อนข้างทนกับน้ำ อย่างที่บอกไปตอนต้น ต้องล้างดีๆ เพื่อป้องกันการอุดตันค่ะ



อ่ะ อ่านกันมาย๊าวยาว สาวๆคนไหนสนใจอยากลอง ราคายกกล่อง 174 บาท (1 สี/ จำนวน 10 ซอง) พุ่งไปซื้อสินค้า BELOV ได้ที่

- www.thebeautylover.com
- BELOV SHOP ลาดพร้าว 101 02-370-1384
- BEAUTY Shopping Online ชั้นนำ และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายบีลอฟทั่วประเทศ

ตอนนี้เค้ามีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่สมัครสมาชิกเว็บไซต์ http://www.thebeautylover.com สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาลด 40% จากราคาเต็ม

ติดตามข่าวสารทางเพจ ก็ตามไปได้ที่ บีลอฟ Belov The Beauty Lover ได้เลยจ้า

ฝากกด Like Fanpage ให้ด้วยน๊าาา จิ้มปุ่มด้านล่างได้เลยจ้า :)




หมายเหตุ : ผลิตภัณฑ์นี้ ได้รับการสนับสนุนจาก BELOV และ https://th.revu.net
อ่านต่อ >>>